สารบัญ:
- 1. น้ำ
- 2. อาหารที่มีโอเมก้า -3 สูง
- 3. อาหารที่มีสังกะสีสูง
- 4. อาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอ
- 5. รับประทานวิตามินอีที่อุดมไปด้วย
การอาศัยอยู่ในประเทศเขตร้อนเช่นอินโดนีเซียไม่ได้รับประกันว่าคุณจะมีผิวที่เนียนนุ่มและชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังประกอบกับมลพิษทางอากาศในระดับสูงและสภาพอากาศที่มักจะไม่แน่นอน ผิวแห้งเป็นขุยและริ้วรอยเป็นสัญญาณแห่งวัยที่พบบ่อย เพื่อเอาชนะสิ่งนี้ให้ใช้ครีมบำรุงผิวเป็นประจำและลดกิจกรรมในสถานที่ที่มีมลภาวะสูงหรือในที่ที่เย็นเกินไปให้มากที่สุด
แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการรับประทานอาหารบางชนิดจะช่วยให้คุณมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งสดใสและมีสุขภาพดี
1. น้ำ
กุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงผิวแห้งคือการทำให้ร่างกายชุ่มชื้น การดื่มน้ำอย่างขยันขันแข็งเป็นสิ่งสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่และล็อคความชุ่มชื้นในร่างกาย ดื่มน้ำ 8 แก้วทุกวันเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของเหลวในแต่ละวันของคุณ นอกจากนี้ควรกินผักและผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบสูงเช่นแตงโมแอปเปิ้ลส้มแตงโมและแตงกวาเพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำ
2. อาหารที่มีโอเมก้า -3 สูง
ไขมันไม่อิ่มตัวเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณเพราะสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในร่างกายและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย การขาดโอเมก้า 3 จะทำให้ผิวแห้งแย่ลงซึ่งอาจนำไปสู่โรคเรื้อนกวางได้ กินอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูงเช่นปลาแซลมอนปลาทูน่าอะโวคาโดหรือวอลนัทเป็นประจำเพื่อลดริ้วรอยและฟื้นฟูผิวที่เต่งตึงและอ่อนนุ่ม
3. อาหารที่มีสังกะสีสูง
ผิวแห้งแตก? อาหารที่อุดมด้วยสังกะสีเป็นทางออก สังกะสีจะสร้างเซลล์ผิวใหม่และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวเพื่อไม่ให้ไวต่อการคุกคามของความเสียหายในอนาคต อย่าลืมใส่หอยนางรมถั่วไก่งวงปูหรือเนื้อไม่ติดมันในเครื่องเคียงประจำวันของคุณ
4. อาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอ
วิตามินเอพบได้ในผักใบเขียวเข้มแครอทมันเทศและฟักทอง วิตามินเอทำหน้าที่ซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลายและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งเป็นสาเหตุของผิวแตก รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอเป็นประจำโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำกิจกรรมนอกบ้านบ่อยๆ
5. รับประทานวิตามินอีที่อุดมไปด้วย
วิตามินอีมีประโยชน์มากมายในการฟื้นฟูผิวซึ่งหนึ่งในนั้นคือตัวป้องกันรังสียูวีตามธรรมชาติ วิตามินอียังช่วยให้คุณฟื้นคืนความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวได้อีกด้วย อย่าลืมกินถั่วและเมล็ดพืชอะโวคาโดข้าวสาลีบรอกโคลีและผักใบสีเข้มเสมอเพื่อสุขภาพที่ดี
x